ในโลกของการเงิน ทุกเรื่องราวสามารถนำมาทำเป็นหนังที่ยอดเยี่ยม ทำให้เรารู้สึกถึงความตลกขบขัน โศกนาฏกรรม ความเฉลียวฉลาด กลโกงและความโลภได้ แม้ว่าในหนังส่วนใหญ่จะแสดงภาพนักการเงินมืออาชีพ แต่ทุกคนก็มักจะมีข้อผิดพลาดให้ผู้ชมอย่างเราได้คิดตาม นำไปปรับใช้กับการลงทุนของตัวเองเสมอ 

KEY TAKEAWAYS

• หนังการเงิน คือ คำแนะนำที่ดีที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับโลกของการเงินเพื่อที่จะทำให้เราตัดสินใจเรื่องการเงินได้อย่างมีเหตุผล และรอบรู้เรื่องเศรษฐกิจโลกที่อาจจะมีอิทธิพลต่อการลงทุนของเรา
• หลายคนอาจชอบอ่านหนังสือการเงินการลงทุน แต่หนังหลาย ๆ เรื่องก็ให้ความรู้ไม่ต่างกัน แถมยังได้ความบันเทิงอีกด้วย
• หนัง 10 เรื่องที่นำมาแนะนำนี้มีหลากหลายแง่มุมทั้งใหม่และเก่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเงิน การลงทุน และหุ้น ที่นักลงทุนทุกคนควรจะดูให้ได้

Itaewon Class (2020)

สุดยอดซีรีส์เกาหลีเกี่ยวกับการลงทุนทำธุรกิจที่เข้มข้นเรื่องหนึ่ง Itaewon Class กับเรื่องราวการต่อสู้ในแวดวงธุรกิจร้านอาหารย่านอิแทวอน เริ่มจากพัคแชรอย เด็กนิสัยดี มุ่งมั่น ที่โดนไล่ออกจากโรงเรียน สูญเสียพ่อและต้องติดคุกด้วยฝีมือของลูกชายเจ้าของ “จางกา” บริษัทธุรกิจอาหารยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของประเทศ พัคแซรอยจึงต้องการแก้แค้นธุรกิจอาหารยักษ์ใหญ่ จางกา ที่ทำให้เขาต้องเสียทุกสิ่งไป 

Cr. IMDb

เมื่อออกจากคุกพัคแซรอยจึงเปิดร้านอาหารและเป็นผู้จัดการร้าน ถือเป็นการเริ่มต้นหนทางสู่การล้มจางกาให้ได้ นอกจากเรื่องนี้จะทำให้เราเห็นการต่อสู้กันในเกมธุรกิจแล้ว ยังเป็นหนึ่งในซีรีส์เกาหลีเรื่องแรก ๆ ที่ให้ความสำคัญต่อการต่อสู้เพื่อที่จะมีชีวิตที่ดี สร้างธุรกิจเล็ก ๆ ของหนุ่มสาวชาวเกาหลีใต้ได้เป็นอย่างดี 

Trading Places (1983)

แม้จะเป็นหนังที่สร้างมากว่า 38 ปีแล้ว แต่ Trading Places ยังคงเป็นหนังที่นักลงทุนต้องหาดูให้ได้ หนังเกี่ยวกับการลงทุนที่เรียกเสียงหัวเราะได้ดีที่สุดในยุค 80 โดยเรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นจากสองมหาเศรษฐีตระกูลดุ๊ก แรนดอล์ฟ (Ralph Bellamy) และมอร์ติเมอร์ (Don Ameche) หาเรื่องแก้เบื่อด้วยการพนันกันว่าเขาจะทำให้บิลลี่ เรย์ วาเลนไทน์ (Eddie Murphy) ขอทานผิวดำข้างถนนกลายเป็นนักธุรกิจได้หรือไม่

Cr. IMDb

ความซวยจึงมาตกอยู่ที่หลุยส์ วินทรอป (Dan Aykroyd) นักธุรกิจหนุ่มอนาคตไกลที่ต้องถูกให้ออกจากบริษัทเพราะต้องให้บิลลี่เข้ามาทำงานแทน ภายหลังบิลลี่และหลุยส์กลับรู้เข้าว่าตัวเองกำลังถูกหลอกใช้โดยสองพี่น้องตระกูลดุ๊ก ทั้งสองเลยจัดแจงวางแผนเอาคืนสองพี่น้องมหาเศรษฐีให้หลาบจำ หลังจากชมภาพยนตร์คลาสสิกเรื่องนี้แล้ว คุณจะต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของหุ้นเพื่อปกป้องการลงทุนของคุณ

Trust no one (2022)

หนังสารคดีที่ทำจากคดีดังของ Gerry Cotten ผู้ก่อตั้งบริษัท QuadrigaCX ตัวแทนแลกเปลี่ยนเงินคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา เมื่อจู่ ๆ เขาก็เสียชีวิตอย่างลึกลับในอินเดีย ทำให้นักลงทุนหลายคนเกิดความสงสัยว่าเขาเสียชีวิตจริงหรือเปล่า หรือแค่แกล้งตายเพื่อที่จะขโมยบิทคอยน์มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ไปใช้คนเดียว เพราะมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่มีรหัสกู้คืน QuadrigaCX คืนได้ ซึ่งทำให้นักลงทุนไม่พอใจเป็นอย่างมากเนื่องจากนักลงทุนบางคนได้ลงทุนไปกับเขาด้วยเงินเก็บทั้งชีวิตที่มี 

Cr. IMDb

เรื่องราวดำเนินไปอย่างเข้มข้นเมื่อมีกลุ่มคนที่ไม่เชื่อว่า Gerry Cotten เสียชีวิตจริง ๆ พวกเขาจึงพยายามรวมกลุ่มกันสืบ จนทราบว่าที่จริงแล้วหนุ่มเนิร์ดอย่าง Gerry Cotten ไม่ได้เนิร์ดและใสซื่ออย่างที่คนอื่นคิด เบื้องหลังของการค้นหาความจริงที่มีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับบิทคอยน์และระบบ Decentralized ที่สนุกมาก ๆ รวมถึงการแสดงให้เห็นถึงทฤษฎีสมคบคิดที่น่ากลัวไม่แพ้กัน 

Wall Street (1987)

Wall Street อาจเป็นหนังการเงินที่หลายคนชื่นชอบเมื่อพูดถึงความโลภในโลกทุนนิยมที่ผู้คนต้องการที่จะรวยโดยไม่สนวิธีการ กำกับโดย Oliver Stone หนังเรื่องนี้เริ่มจาก 'บัด ฟ็อกซ์' (Charlie Sheen) โบรกเกอร์หนุ่มไฟแรงที่ต้องการทำยอดขึ้นไประดับท็อปของวงการหุ้น เขาจึงพยายามจะเข้าพบนักลงทุนรายใหญ่ที่ชื่อว่า 'กอร์ดอน เก็กโก้' (Michael Douglas) เพื่อไปเสนอขายการลงทุน และด้วยความสามารถของเขาทำให้เก็กโก้อาศัยความเก่งและความทะเยอทะยานอยากประสบความสำเร็จของคนหนุ่มโน้มน้าวให้เขาเริ่มใช้ข้อมูลภายในที่ผิดกฎหมายและผิดจรรยาบรรณ จนทำให้บัดเริ่มมีชีวิตที่ดีขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว  

Cr. IMDb

แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็มีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูกิจการสายการบินที่ใกล้ล้มละลายที่พ่อของบัดเป็นประธานสหภาพอยู่ เนื่องจากบัดอยากฟื้นฟูกิจการแต่เก็กโก้อยากเทขาย หนังทำให้เรามองเห็นความโลภได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งบางคนก็ว่ามันเป็นสิ่งที่ดี ทำให้คนเราขยันและทะเยอะทะยาน แต่ขณะเดียวกันความโลภก็ทำให้คนไร้ซึ่งจริยธรรมและจรรยาบรรณ ยินดีทำทุกอย่างเพื่อเงินโดยไม่เห็นหัวคนอื่นได้เหมือนกัน 

Rogue Trader (1999)

หนังเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องจริงของ ‘นิค ลีสัน’ บทเรียนของชายผู้ทำให้ธนาคารอายุกว่า 223 ปีอย่าง Barings Bank ซึ่งเป็นธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลกต้องล้มละลาย และตัวเขาเองก็ถูกตัดสินให้ติดคุก เรื่องเริ่มจาก ‘นิค ลีสัน’ หนุ่มอังกฤษที่ทำงานที่ Barings Bank ของอังกฤษถูกส่งตัวไปสิงคโปร์เพื่อเปิดสาขาในการเทรดหุ้นฝั่งเอเชีย ซึ่งเขาก็สามารถทำกำไรได้สูงมากจากการการเทรดเสี่ยง ๆ หลายอย่าง

Cr. IMDb

เขาเชื่อว่าทฤษฎีในการเทรดของเขาดีที่สุดจึงทำตามเดิมเรื่อย ๆ ต่อมาพอเริ่มขาดทุนแทนที่จะตัดขาดทุน (Stop loss) เขากลับยังพยายามเพิ่มความเสี่ยงให้มากขึ้นหลายเท่า แถมยังโกหกผู้ใหญ่ที่ Barings Bank ว่าทุกอย่างโอเคดี ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ทำให้เทรดขาดทุนไปถึง 800 ล้านปอนด์ หรือกว่า 3 หมื่นล้านบาทแล้วหนีหายสาบสูญไป เรื่องราวของเขาถือเป็นบทเรียนที่ดีในการบริหารความเสี่ยงและการกำกับดูแลด้านการเงิน

The Wolf of Wall Street (2013)

ถ้าพูดถึงหนังเกี่ยวกับการเงินการลงทุน แต่ไม่พูดถึงหนังเรื่อง The Wolf of Wall Street ก็คงเหมือนการบินไปปารีสแต่ไม่ลองกินครัวซองต์ หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นและจุดจบแห่งความยิ่งใหญ่ของ ‘จอร์แดน เบลฟอร์ท’ (Jordan Belfort) รับบทโดย Leonardo DiCaprio ผู้ชายที่ถูกเรียกว่า The Wolf of Wall Street ตัวจริง

Cr. IMDb

หนังได้ทำให้เราเห็นชีวิตและพรสวรรค์ของ Jordan Belfort นักธุรกิจและนักขายมือทองผู้ร่ำรวยและโด่งดังจากผลงานการเป็นนายหน้าค้าหุ้นใน Wall Street เขาทำเงินมหาศาลภายในเวลาอันรวดเร็ว และรวยถึงขั้นใช้เงินไม่ทันจนขาดสติ โลภเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา เหล้ายาและผู้หญิงจนชีวิตต้องตกต่ำ 

Margin Call (2011)

Margin Call ดำเนินเรื่องมาจากนักวิเคราะห์ความเสี่ยงชื่อว่า Peter Sullivan เขาได้พบว่าสินทรัพย์ที่บริษัทครอบครองอยู่ตั้งอยู่บนความเสี่ยงสูงมาก จากนั้นคืนอันแสนโหดร้ายก็ได้เริ่มขึ้น เพราะทั้งทีมต้องตัดสินใจว่าจะขายสินทรัพย์ในพอร์ตทั้งหมดออกไปทันทีที่ตลาดเปิดวันรุ่งขึ้นอย่างไรให้ขาดทุนน้อยที่สุด 

Cr. IMDb

หนังเรื่องนี้ตีแผ่เรื่องราวการเอาตัวรอดจากวิกฤตของธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง โดยถ่ายทอดช่วงเวลา 24 ชั่วโมงก่อนนับหนึ่งเข้าสู่วิกฤติซับไพร์มเมื่อปี 2008 ที่เมื่อเกิดการล่มสลายของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งก็ย่อมส่งผลให้ระบบการเงินเกิดการล่มสลายราวกับโดมิโน่ที่เมื่อชิ้นหนึ่งล้มลงก็จะพาชิ้นถัดไปล้มลงไม่ต่างกัน เราจะได้เห็นวิธีการ Cut Loss ที่น่าสนใจมาก

Boiler Room (2000)

เป็นหนึ่งในหนังเกี่ยวกับหุ้นที่เล่าเรื่องของ 'เซ็ธ' (Giovanni Ribisi) เด็กที่เรียนไม่จบมหาวิทยาลัย ที่ความจริงแล้วมีพ่อเป็นผู้พิพากษา บ้านค่อนข้างมีฐานะ แต่เขากลับแตกหน่อมาเปิดบ่อนเล็ก ๆ ที่มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ด้วยความที่เป็นคนพูดเก่งมีลีลาวาทศิลป์ที่ดีมาก ๆ เซ็ธจึงได้ไปฝึกงานที่บริษัทโบรกเกอร์แห่งหนึ่ง แต่งานที่ทำกลับเป็นการค้าหุ้นเถื่อนที่ผิดกฎหมาย

Cr. IMDb

หน้าที่หลักของเขาคือการหาลูกค้าที่ไม่รู้จักจากบัญชีรายชื่อตามสมุดโทรศัพท์ที่บริษัทจัดให้ หลอกให้ลูกค้าหลงเชื่อซื้อหุ้นตามที่บอก บางคนที่ไม่มีความรู้เรื่องการลงทุนก็มักจะเป็นเหยื่อที่หลงตามความโลภ ยอมนำเงินเก็บเงินออมออกมาซื้อหุ้นกับนายหน้าขายหุ้นจนหมดตัว หนังเรื่องนี้มีวลีเด็ดที่ว่า “If it sounds too good to be true, it probably is.” ก็ถ้ามันฟังดูเหมือนจะดีจนเกินจริง มันก็อาจจะเป็นเรื่องเกินจริง (ก็คือเป็นเรื่องหลอกลวง ไม่จริงนั่นเองค่ะ)

The Big Short (2015)

The Big Short เป็นหนังที่สร้างมาจากหนังสือ The Big Short: Inside the Doomsday Machine เขียนโดย Michael Lewis หนังเรื่องนี้สร้างขึ้นมาในช่วงที่เกิดวิกฤติฟองสบู่สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในปี 2008 โดยอดีตนายแพทย์ผู้ผันตัวมาเป็นผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์นามว่า ‘ไมเคิล เบอร์รี่’ (Michael Burry) พบว่าในตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีการก่อตัวของฟองสบู่ขนาดมหึมาอันเกิดจากความเสี่ยงของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่มีเครดิตต่ำ

Cr. IMDb

เขาเห็นว่าในอนาคตมูลค่าของตลาดอสังหาฯ จะลดลงอย่างแน่นอน โดยยอมจ่ายค่าเบี้ยประกัน (CDS spread) ในแต่ละปี ทำให้เราต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราจะเลือกฝั่งไหนระหว่าง การเชื่อต่อไปว่าตลาดอสังหาฯ จะยังคงแข็งแรง กับฉวยโอกาสรวยด้วยการเดิมพันจากความพินาศของคนทั้งตลาด 

Too Big To Fail (2011)

Too big to fail คือวดีเด็ดจากปากของอดีตประธานาธิบดี George Bush เมื่อปี 2008 เมื่อเขาอยากจะ ‘อุ้ม’ องค์กรทางการเงินบางแห่งจนเกิดทฤษฎีที่ว่า ‘ใหญ่เกินไปที่จะปล่อยให้ล้ม’ (Too Big To Fail) หมายถึงการปล่อยให้ธุรกิจที่มีกิจการขนาดใหญ่มาก ๆ ล้มไม่ได้ เพราะมีการเชื่อมโยงกันหลายส่วนของระบบเศรษฐกิจทั่วโลกนั่นเอง   

Cr. IMDb

Too Big To Fail จะช่วยให้เราได้เห็นภาพรวมของอุตสาหกรรมการเงินการธนาคารอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ นักลงทุนจะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินและความโลภที่มากเกินไป การแก้ปัญหาของรัฐบาลที่กระทำต่อองค์กรทางการเงินต่าง ๆ ที่อยู่ในสภาพใกล้จะล้มละลาย และเกิดคำถามในใจว่ามันคือการอุ้มหรือการยึดกันแน่ 

ที่มาข้อมูล

• https://www.investopedia.com/articles/personal-finance/082015/10-must-watch-movies-finance-professionals.asp
• https://movies.mxdwn.com/feature/14-must-watch-movies-for-investors/